พิพิธภัณฑ์บ้านเอกะนาค
Baan Ekanak Museum
พิพิธภัณฑ์บ้านเอกะนาค
Baan Ekanak Museum
บ้านเอกะนาค ตั้งอยู่ในซอยอิสรภาพ 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นผู้ครอบครองดูแล กรมธนารักษ์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
บ้านเอกะนาค มีลักษณะเป็นเรือนไทยก่ออิฐถือปูน ผู้สร้างซึ่งเป็นเจ้าของบ้านคือ พันตำรวจเอก พระยาประสงค์สรรพการ (ยวง เอกะนาค) อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และเป็น 1 ใน 24 ท่านที่เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2490
การสืบค้นประวัติ พ.ต.อ. พระยาประสงค์ สรรพการ ทำให้พบความเชื่อมโยงกับรองอำมาตย์เอกเกอรซ ฟรีดริช เวเลอร์ (Gersh Friedrich Veler) นายตรวจ เอกกรมรถไฟหลวงสายเหนือชาวเยอรมัน และเป็นนายห้างในบางกอก ซึ่งได้รับราชการเป็นวิศวกรสร้างทางรถไฟในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ต่อมาได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ว่า “เวลานนท์” สืบเนื่องจากนางเสงี่ยม เวลานนท์ ภรรยา รองอำมาตย์เอกเกอรช ฟรีดริช เวเลอร์ และคุณหญิงเย็น เอกะนาค เป็นพี่น้องกัน (คุณหญิงเย็นเป็นภรรยาพันตำรวจเอกพระยาประสงค์สรรพการ) ทั้งสองครอบครัวนี้จึงมีความสัมพันธ์ดั่งญาติสนิท ดังปรากฏภาพถ่ายทั้งสองครอบครัวของสกุลเอกะนาคและเวลานนท์
ต่อมาบ้านเอกะนาค ตกเป็นของบุตรสาว คือ คุณประยูร เอกะนาค และเนื่องจากคุณประยูรไม่มีทายาทสืบสกุล บ้านเอกะนาคจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จเจ้าพระยาตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ดังมีข้อความตอนหนึ่งลงวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 มีใจความว่า
“ตึกและเรือนกับที่ดินสวนตามโฉนด หมายเลขที่ 2253 ตำบลริมคลองบางไส้ไก่ อำเภอธนบุรี จังหวัดธนบุรี ยกให้นางสาวประยูร เอกะนาค บุตรสาว ห้ามมิให้มีการจำนอง จำหน่าย หรือกระทำการใด ๆ ให้กรรมสิทธิ์ที่ดินผืนนั้นตกทอดไปเป็นของผู้อื่น หากนางสาวประยูร เอกะนาค วายชนม์ลงแล้ว หากไม่มีใครรับมรดกต่อไป ขอให้ถวายวัด อนงคารามหรือยกให้แก่โรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เป็นสถานที่ศึกษาวิชาสำหรับกุลบุตรและกุลธิดาตามแต่กรณีที่เหมาะสม”
เมื่อ คุณประยูร เอกะนาค ถึงแก่กรรมลง บ้านเอกะนาคจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยา) ตามพินัยกรรม บ้านเอกะนาคได้ถูกทิ้งร้าง มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จนกระทั่ง พ.ศ. 2535 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จึงได้ริเริ่มโครงการเพื่อบูรณะ จนได้ดำเนินการบูรณะใน พ.ศ. 2540 และจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ศูนย์กรุงธนบุรีศึกษา
บ้านเอกะนาค มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหนึ่งของอาคารมีห้องรูปห้าเหลี่ยมอยู่ตรงมุมอาคาร เหนือขึ้นไปบริเวณหน้าจั่วตกแต่งลายไม้ฉลุ
เอกลักษณ์พิเศษของบ้านเอกะนาค คือ บริเวณห้องชั้น 2 ช่องลมที่เป็นแผ่นลายไม้ฉลุทั้งหมด มีการฉลุลายแสดงชื่อเดิมของพันตำรวจเอก พระยาประสงค์สรรพการ เมื่อเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นบนจะเห็นประตูบานเฟี้ยม ซึ่งกั้นระหว่างส่วนนอกกับส่วนใน ประตูบานเฟี้ยมนี้ช่องด้านบนสุดฉลุเป็นลวดลายพรรณพฤกษาล้อมตัวหนังสือ 3 ตัว คือ ยวง
เมื่อมองลวดลายแบบผิวเผิน จะเห็นว่าการออกแบบลวดลายเหมือนกัน แต่แท้จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะเท่าที่พิจารณาอย่างละเอียด ลวดลายที่อยู่ชิดขอบทั้งซ้ายและขวาจะมีการออกแบบแตกต่างกันไปเป็นจำนวน 5 แบบตามที่นำเสนอเป็นลายเส้นในหนังสือเล่มนี้ ในส่วนที่เป็นลูกฟักของประตูได้แกะสลักลวดลาย 2 แบบ คือ แกะสลักเซาะร่องไม่ทะลุและฉลุแบบลายติด จุดที่ตกแต่งเป็นพิเศษอีกจุดหนึ่ง คือ ลวดลายที่กั้นอยู่ระหว่างห้องโถงกลางกับโถงทางเดินเพื่อเดินถึงกันได้โดยไม่มีประตู ประดับตกแต่งลวดลายผสมผสานทั้งการฉลุและการแกะสลักแสดงมิติตื้นลึกหนาบางอย่างสวยงาม การประดับตกแต่งลวดลายของบ้านเอกะนาคพบในหลายจุดทั้งส่วนของชายคา ผนังบริเวณห้องหลายเหลี่ยมและระหว่างใต้พื้นชั้นล่าง
พิพิธภัณฑ์บ้านเอกะนาค มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร